ถือเป็นข่าวที่น่าสนใจของวงการคริปโตฯ มากพอสมควร เมื่อธนาคารออกมาประกาศว่า จะเริ่มมีการทดลองใช้ “Retail CBDC” หรือ “เงินบาทดิจิทัล” กับประชาชนในวงจำกัด และคาดว่าภายใน 3-5 ปี จะสามารถเห็น CBDC พัฒนา และนำมาปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
อนาคตแห่งโลกการเงินของไทย
ในเบื้องต้นจะมีการนำเงินบาทดิจิทัลมาทดสอบในกลุ่มนักพัฒนา และกลุ่มบริษัทเอกชนบางรายก่อน หลังจากนั้นจึงจะทดสอบการใช้งานในภาคประชาชนต่อไป ทั้งนี้ทาง CBDC จะทำการศึกษาข้อมูล ผลกระทบ และหาข้อสรุปในเรื่องของข้อกฎหมายต่างๆ โดยคาดว่าจะเริ่มใช้ได้จริงในไตรมาสที่ 2 ของปี พ.ศ. 2565 หากประสบความสำเร็จจนมีผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย และแทนที่เงินสดแบบเดิมทั้งหมด ก็อาจจะเรียกว่าเป็น “อนาคตแห่งโลกการเงินของไทย” เลยก็ว่าได้
ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่า ทุกวันนี้เราก็ทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัลกันอยู่แล้ว แต่แท้จริงแล้ว เงินที่เราใช้ทำธุรกรรมในแอปพลิเคชันทั่วไปนั้นจะเป็นการพิมพ์ธนบัตรออกมาก่อน และนำมาแปลงเป็นตัวเลขในภายหลัง (E-Money) ผ่านการนำมาหมุนเวียนใช้จ่ายกันผ่านตัวกลางต่างๆ
แต่เงินบาทดิจิทัลที่กำลังจะนำมาใช้ เป็นเงินดิจิทัลที่อยู่บนระบบบล็อกเชนโดยมีสินทรัพย์ค้ำประกันเช่นเดิม และมีคนกลางคือ“ธนาคารแห่งประเทศไทย” ที่เป็นผู้เข้ามาควบคุม โดยเงินบาทดิจิทัลจะผูกค่ากับเงินบาทแบบ 1:1 เพื่อให้เกิดความสมดุลมากขึ้น ซึ่งการทำธุรกรรมต่างๆ จะถูกควบคุมจากธนาคารแห่งประเทศไทยโดยตรง ทำให้หากพบความผิดปกติหรือถูกใช้ในการทำธุรกรรมที่ผิดกฎหมายใดๆ ทางธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะทราบในทันที และสามารถตรวจสอบ หรือติดตามข้อมูลการใช้จ่ายได้ทั้งหมด
โดย “เงินบาทดิจิทัล” หรือ “Retail CBDC” จะกลายมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของเงินสดดิจิทัลที่ทำให้การทำธุรกรรมมีประสิทธิภาพและเชื่อมโยงกันมากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิผลต่อนโยบายของรัฐบาลในการดูแลเศรษฐกิจได้ดีขึ้น ทำให้รัฐบาลสามารถดำเนินนโยบายได้ตรงจุด และสามารถวัดประสิทธิภาพได้ชัดเจน นอกจากนี้ เงินบาทดิจิทัลยังเป็นการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานของระบบชำระเงิน ที่จะช่วยลดต้นทุนการใช้เงินสด และช่วยป้องกันการผูกขาดระบบชำระเงินของธุรกิจภาคเอกชนรายใดรายหนึ่งได้มากขึ้นด้วย
ถึงแม้ว่าเงินบาทดิจิทัล หรือ Retail CBDC จะยังอยู่ในช่วงของการทดลองใช้ แต่หากประสบความสำเร็จ เชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของระบบการเงินของประเทศไทย ที่จะมีความปลอดภัย โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้มากขึ้น ซึ่งก็ต้องรอติดตามผลลัพธ์กันต่อไป…
และหากใครสนใจศึกษาข้อมูลเกี่ยวโลกของคริปโตฯ ก็สามารถติดตามต่อได้ที่ CryptoMotion เพราะเราจะอัปเดตข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อคุณในโลกของคริปโตฯ เพื่อให้คุณสามารถลงทุนได้อย่างเชี่ยวชาญ และเข้าใจโลกของคริปโตฯมากที่สุด